พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว (บริษัททัวร์) และ มัคคุเทศก์ (ไกด์) ฉบับใหม่ ถือว่า เป็นความรู้ เผื่ออยากเข้าวงการไกด์ และ อบรมไกด์

A) คลิกบรรทัดนี้ : ลิ้งค์ ตรวจสอบใบอนุญาตมัคคุเทศก์ เป็นไกด์ที่มีใบอนุญาตหรือไม่

B) คลิกบรรทัดนี้ : ลิ้งค์ ตรวจสอบใบอนุญาตผู้นำเที่ยว เป็นหัวหน้าทัวร์ (ทัวร์ลีดเดอร์) ที่พาคณะนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศ  เป็นหัวหน้าทัวร์ที่มีใบอนุญาตหรือไม่ 

C) คลิกบรรทัดนี้ : ลิ้งค์ ตรวจสอบใบอนุญาตธุรกิจนำเที่ยว บริษัททัวร์ขายทัวร์มีใบอนุญาตหรือไม่ 

บริษัททัวร์ ที่จ้างไกด์ผี หรือไกด์เถื่อนต่างชาติ ต่างด้าว
(■ = www.CuHarry.com = ■) อาจเจอ 2-3 กระทง

(กระทง ที่ 1)
บริษัททัวร์ จะเจอ โทษ พรบ. แรงงานต่างด้าว
(ไกด์เถื่อน ไม่เกิน 800,000/คน) + และ

(กระทง ที่ 2)
บริษัททัวร์ จะเจอ โทษ พรบ.ท่องเที่ยว ด้วย
(แอบบใช้ซิตติ้งไกด์ไทย ทำให้ประเทศไทยเสียหาย บริษัทจะเจอปรับอีกไม่เกิน 500,000 บาท)

(กระทง ที่ 3 ) = ข้อ C.
ผู้ใดขายทัวร์-โดยไม่มีบัตรอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ด้วยการวางเงินประกันกับกรมการท่องเที่ยว
โทษ คุก 2 ปี และหรือ โทษปรับไม่เกิน 500,000

บุคคลธรรมดา เช่น นาย ก. สามารถใช้ชื่อตัวเอง เป็นผู้รับใบอนุญาตฯได้ครับ (โดยไม่ต้องไปเสียเงินจดเป็นห้างหุ้นส่วน 2 คน หรือจดเป็นบริษัท  3 คน)

ห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัท ไม่มีสิทธิ์ในการประกอบธุรกิจนำเที่ยว จนกว่า จะได้ไปวางเงินประกับกับกรมฯ ถึงจะได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ขายทัวร์ได้

โทษในลักษณะนอมินี (ในหลักษณะคนไทยถือหุ้น”แทน/ในนาม”คนต่างชาติ) 
“…การกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำในลักษณะ “นอมินี” โดยถือหุ้นแทนให้กับบุคคลต่างด้าว อันเป็นความผิดตาม มาตรา 36 พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท – 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ร่วมแชร์ โดย … ■ = https://www.CuHarry.com = ■

= ฝากแชร์…พรบ.ฉบับใหม่ และ ฉบับเก่า =

(A.)ไกด์ ที่ซื้อ ค่าหัวนักท่องเที่ยว จาก บท.ทัวร์ =
หรือ ไกด์ที่ให้ประโยชน์-อื่น/สินบน กับ บท.ทัวร์ =
เพื่อที่ตนจะได้ซื้อหัวนักท่องเที่ยวจากบริษัททัวร์ มาเป็นลูกทัวร์ของตัวเอง

(B.) ไกด์-ที่ยอมลดตัวเป็น ซิ้ตติ้งไกด์ ไกด์นั่งประจำรถบัส รถตู้  ไกด์ไทยที่ไม่ทำหน้าที่ไกด์ กลับให้ไกด์ผี หรือไกด์เถื่อนต่างชาติทำหน้าที่เป็นไกด์แทน

(A.) (B.) = ล้วนทำผิด พรบ.
● โทษคุก-ไม่เกิน 6 เดือน และหรือ โทษปรับ ไม่เกิน 50,000

(♤ = https://www.CuHarry.com = ♤)

(C.) ผู้ใดขายทัวร์-โดยไม่มีบัตรอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ด้วยการวางเงินประกันกับกรมการท่องเที่ยว (โทษ คุก 2 ปี และหรือ โทษปรับไม่เกิน 500,000 )

บุคคลธรรมดา เช่น นาย ก. สามารถใช้ชื่อตัวเอง เป็นผู้รับใบอนุญาตฯได้ครับ (โดยไม่ต้องไปเสียเงินจดเป็นห้างหุ้นส่วน 2 คน หรือจดเป็นบริษัท  3 คน)

ห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัท ไม่มีสิทธิ์ในการประกอบธุรกิจนำเที่ยว จนกว่า จะได้ไปวางเงินประกับกับกรมฯ ถึงจะได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ขายทัวร์ได้

(โทษ-คุกไม่เกิน 2 ปี และหรือ โทษ-ปรับไม่เกิน 500,000 บาท)

(♤ = https://www.CuHarry.com = ♤)

(D.)กฎเหล็ก ครอบจักรวาล ของ พรบ.มัคคุเทศก์ และธุรกิจนำเที่ยว = คือ หากผู้ใด ใหญ่แค่ไหน …ทำให้เกิดความเสียหาย…

(D.1) ทำให้เกิดความเสียหาย เสียชื่อ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(D.2) ทำให้เกิดความเสียหาย ต่อ แหล่งสถานที่ท่องเที่ยว
(D.3) ทำให้เกิดความเสียหายนักท่องเที่ยว-ไทย/ต่างชาติ

= จัดไปก่อน แบบ-เบาะๆ โทษปรับ ไม่เกิน 500,000 ไปก่อน
(ส่วนจะมีโทษคุก/ไม่คุก ค่อยว่ากันเป็นมาตราๆ)

(♤ = www.CuHarry.com =♤ )

(E.) บริษัททัวร์ ทำทัวร์ศูนย์เหรียญ (0 เหรียญ)  หรือ Zero Dollar  มี 2 แบบ

ทัวร์ศูนย์เหรียญแบบที่ 1 : ที่ไกด์ผีต่างชาติเป็นผู้ซื้อหัวนักท่องเที่ยว หรือซื้อกรุ๊ปทัวร์มาบริหารจัดการ หรือมาปุ้ยี่ปุ้ยำนักท่องเที่ยวเอง แล้วจ้างไกด์ไทยมานั่งเฉยๆ นั่งเพื่อกันตำรวจท่องเที่ยวไม่ให้ตรวจจับไกด์ผีได้ เราจึงเรียกไกด์ไทยที่นั่งเฉยๆนี้ว่า ซิตติ้งไกด์ (Sitting Guide) แต่ถ้าเกิดนักท่องเที่ยวกรุ๊ปนี้ เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยมีเงินช้อป คือมาแต่ตัวจริงๆ ไม่ช้อป ไม่ซื้อ ท้ายสุดไกด์ผีก็จะทิ้งทัวร์หนีหายเข้ากลีบเมฆ คราวนี้ความซวยก็จะมาตกที่ไกด์ไทย หรือ ซิตติ้งไกด์คนนี้ที่จะต้องแบกรับช่วงต่อจากไกด์ผีอย่างไม่สมัครใจ ต้องหาเงินหรือกู้เงินมาเพื่อออกค่าใช้จ่ายต่างๆแทนไกด์ผีที่ได้หนีเข้ากลีบเมฆ : คำถาม แล้ว ซิตติ้งไกด์คนนี้จะหาเงินจากที่ไหนเพื่อไม่ให้เป็นข่าวทิ้งทัวร์ เพราะถ้าถูกจับได้ว่าเป็นซิตติ้งไกด์(อาชีพ) จะมีความผิด ตาม พรบ. ข้อ B, C และ D (ทั้งจำ ทั้งปรับ)

ทัวร์ศูนย์เหรียญ แบบที่ 2 : ที่ไกด์ไทยเป็นผู้ซื้อหัวนักท่องเที่ยวกับบริษัททัวร์มาบริหารจัดการเอง เสี่ยงซวยขาดทุน หรือ เฮงล้านแตก (ขออภัยที่ใช้คำว่า ซวย เพื่อที่จะได้เข้าใจกันแบบง่ายๆ)

ทัวร์ศูนย์เหรียญ จึงเป็นรูปแบบการทำทัวร์อย่าง1ที่ผิดธรรมชาติ คือ ทำทัวร์แบบแบกรับต้นทุนทุกอย่าง เพียงเพื่อรอลุ้นหวังได้ค่าส่วนต่างจากการขายออฟชั่น หลอกให้ซื้อของแพง และรอค่าคอมมิชชั่นจากนักท่องเที่ยวช้อปกระจาย เพื่อจะได้คืนทุน และได้กำไร แต่มักจบด้วยการขาดทุน ก็เฉลี่ยกันไป กรุ๊ปนี้กำไร ก็ไปหักลบกับกรุ๊ปที่ขาดทุนผ่านๆมา แบบลุ้นเครียดไปเรื่อยๆ เพราะได้ตัดสินใจเลือกการเป็นไกด์วิถีชีวิตแบบนี้ไปแล้ว เพราะเป็นไกด์ ตาม พรบ. ค่าตัววันละ 1,000 น้อยไป เสี่ยงซื้อหัวนักท่องเที่ยวดีกว่า

ที่มา ของ ทัวร์ ศูนย์เหรียญ หรือ Zero Dollar : (คร่าวๆประมาณนี้นะครับ) เริ่มจากการเจรขาซื้อขายหัวนักท่องเที่ยวระหว่างบริษัท(ทัวร์)ที่ไทย กับบริษัท(ทัวร์)ที่จีน หรือนายหน้าที่จีน พร้อมกับประชาสัมพันธ์โปรแกรมทัวร์ หรือ รายการนำเที่ยวว่า มาเที่ยวไทย จะได้ไปเที่ยวที่ไหน พักที่ไหน กินที่ไหน ช้อปปิ้งที่ไหน นักท่องเที่ยวจีนจ่ายแค่ตั๋วเครื่องบินเท่านั้น => แน่นอน เป็นใครก็อยากมาเที่ยวไทย มาแต่ตัว แถมกินฟรี อยู่ฟรี เที่ยวฟรี (สมมุติว่า ที่จีนประชาสัมพันธ์ว่า ทัวร์เที่ยวไทย 6วัน 5คืน แพคเกจคนละ (ประมาณ) 0 – 5,000 บาท หรือ แพคเกจนี้ ซื้อแต่ตั๋วเครื่องบินก็พอ ฟังดูแปลกไหม “ราคาคล้ายๆโปรไฟไหม้ ไทยเที่ยวนอกไหมครับ แต่ไม่ใช่นะครับ เพราะคนละบริบทกัน” ==> สมมุติว่า บริษัท(ทัวร์)ที่ไทย ได้ซื้อหัวนักท่องเที่ยวหัวละ 4,000 บาทx20หัว=80,000บาท ก็จะทำการเสนอขายกรุ๊ปนี้ กับ ไกด์ไทย ไกด์เถื่อนต่างชาติ/ไกด์ผี หรือ หัวหน้าทัวร์จีนของกรุ๊ปดังกล่าว ที่ 120,000 บาท ==> พอซื้อกรุ๊ปมาแล้ว ก็จะทำการบริหารจัดการกรุ๊ปทัวร์เอง เพื่อหาทางคืนทุน ด้วยการพาลงร้านช้อป ฯลฯ เป็นต้น

ถ้ากรุ๊ปนี้ เจอ ไกด์ไทยเป็นผู้ซื้อกรุ๊ปเอง ก็อาจโชคดี แม้ว่าทัวร์กรุ๊ปนี้จะไม่มียอดช้อป หรือยอดช้อปน้อย ดูจากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวกรุ๊ปนี้แล้ว เดาในใจล่วงหน้าได้เลย ขาดทุนแน่นอน หมดสิทธิ์คืนทุน 100% ==>> แต่ไกด์ไทยรายนี้จะไม่กล้าทำอะไรกับทัวร์กรุ๊ปนี้ เพื่อให้เป็นข่าว เพราะถ้าเป็นข่าว จะดังทั้งวงการแน่นอน เต็มที่ไกด์รายนี้ ก็อาจแค่บ่นในใจ ทำไมซวยจัง วันนี้กินไข่ทั้งวันอีกแล้ว ด่านนี้ก็กินไข่ อะไรประมาณนี้ == สรุป จบงาน ได้เงินจากยอดช้อปของกรุ๊ปนี้แค่ 10,000 บาท แต่กู้เงินมา 300,000 บาท เพื่อซื้อกรุ๊ปนี้ (เพื่อให้ได้นักท่องเที่ยวมา =ผิด พรบ.ข้อ A) = ขาดทุนรวม 290,000 บาท สรุป กรุ๊ปนี้เจ๊ง ไม่เอาแล้ว เปลี่ยนอาชีพดีกว่า)

แต่ถ้า ในทางกลับกัน 4 วันแรกไม่ช้อปอะไรเลย แต่ดันช้อปวันสุดท้าย ช้อปกระจาย ช้อปไป 5,000,000 บาท x 30% = ไกด์ไทยรายนี้ โคตรเฮงเลย ได้ค่าคอม 1,500,000 บาท คืนทุน แถมมีกำไร 1,200,000 บาท (เก็บไว้ซื้อกรุ๊ปได้อีก 2-3 กรุ๊ปสบาย ที่เหลือฝากเข้าธนาคารให้ครอบครัว)—แต่ก็ไม่ใช่ ทุกกรุ๊ปจะล้านแตก และก็ ไม่ใช่ว่า จะมีบ่อยๆให้เห็นกันนะครับ

นี่แหละจึงเป็นที่มา ของคำว่า ไกด์ไม่มีเงินเดือน (มีแต่ค่าแรงตาม พรบ.วันละ 1,000 บาท) หรือเหมาไป 1 ปาร์ตี้ ตัวอย่าง เช่น 1 กรุ๊ป 1 ปาร์ตี้ : ของทัวร์อินเดียมา 4 วัน หรือ ของทัวร์จีน 6วัน ซิตติ้งไกด์มือใหม่อาจได้ค่าจ้างเหมาไป กรุ๊ปละ 12,000 ++)

ไกด์จึงดูเหมือนเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง รายได้ไม่แน่นอน จะไปกู้แบงค์ แบงค์ก็ไม่ปล่อย  (ก่อนเป็นไกด์ สวยขาวหล่อ หลังเป็นไกด์ เครียดดำโทร-แต่ไม่ใช่ทุกคน) = อาชีพไกด์ จึงไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิดนะครับ

แต่ถ้าบังเอิญ กรุ๊ปนี้ เจอไกด์เถื่อนต่างชาติ/ไกด์ผี เป็นผู้ซื้อทัวร์กรุ๊ปนี้ก็อาจถึงคราวเคราะห์กรรมเจอการข่มขู่ต่างๆนานาเพื่อให้ได้ยอดช้อป บังคับให้ซื้อออฟชั่น หลอกให้ซื้อของบ้าง จัดฉากเป็นร้านค้าหรืออาจแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อหลอกให้เชื่อหลอกให้ซื้อ คำนวณในใจ ดูจากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวกรุ๊ปนี้แล้ว ลงร้าน 1-2 ชั่วโมงต่อร้านแล้ว ไม่ช้อปอะไรเลย (ตั้งใจมาเที่ยวแบบศูนย์เหรียญจริงๆ กะกินฟรี อยู่ฟรี เที่ยวฟรีจริงๆ) ไกด์ผีรายนี้ก็ตัดสินใจทิ้งทัวร์วิ่งหนีเข้ากลีบเมฆเลย ตามข่าวที่เห็น มีการปล่อยนักท่องเที่ยวกลางถนนบ้าง เข้าห้องพักไม่ได้บ้าง ฯลฯ จนทำให้กรมการท่องเที่ยว ตำรวจท่องเที่ยว รัฐบาล ออกเงินช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ==> นี่แหละ ภัย จากทัวร์ศูนย์เหรียญ วีรกรรมฉาวโฉ่ของไกด์ผี หรือไกด์เถื่อนต่างชาติที่ทำเป็นขบวนการ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง

(สรุป ทัวร์ศูนย์เหรียญ สามารถเกิดขึ้นได้ในรูปแบบ ทัวร์บัส-โดยส่วนใหญ่ ทัวร์ตู้ และหรือ ทัวร์เที่ยวอิสระ ล้ววนเป็นการขายทัวร์แบบผิดธรรมชาติ คือ ขายทัวร์-ต่ำกว่าทุน/ เป็นคนละเรื่องของการให้ส่วนลดแก่นักท่องเที่ยวนะครับ ข้อ (B.)

แต่ทัวร์ที่มีคุณภาพ (ไม่ได้หมายถึง ทัวร์ที่ช้อป 1,000,000 แตกนะครับ) แต่หากหมายถึง ทัวร์ที่มีการซื้อขายทัวร์แบบธรรมชาติ โปรแกรมทัวร์ รวมราคาตั๋วสายการบิน โรงแรม ที่กิน ที่เที่ยว ค่าบริการ บวกกำไร ออกมาเป็นแบบแพคเกจทัวร์ (Package) เช่น ทัวร์กรุงเทพ-ภูเก็ต-เชียงใหม่ ตกเฉลี่ยคนละ xx,000 บาท ทัวร์แบบนี้แหละสร้างรายได้เข้าประเทศไทยจริงๆ มีการจ่ายเงินซื้อทัวร์จริง ซึ่งต่างจากทัวร์ทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ไม่มีการซื้อทัวร์จริง แถมยังเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาต่างๆ

เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ได้เห็นยอดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ปีละ 10-20-30-40 ล้านคนก่อให้เกิดรายได้ หลายแสนล้าน หรือ หลายล้านล้านบาท ==>> คำถามคือ รายได้ดังกล่าวนี้ เข้าประเทศไทยจริงๆ? หรือเป็นแค่ตัวเลขสมมุติฐาน? แต่ที่แน่ๆ ประเทศได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย เมื่อไหร่ที่มีนักท่องเที่ยวเยือน เมื่อนั้นก็จะมีเงินหมุนไปหมุนมา คนไทยมีรอยยิ้ม มีการสั่งซื้อวัตถุดิบ สั่งซื้อข้าว ไข่ไก่ เนื้อสัตว์ ผักผลไม้ สินค้าอุปโภคบริโภค มีการจ้างงาน และ สร้างอาชีพ ทุกภาคส่วน เป็นต้น

{หมายเหตุ : แต่ใช่ว่า จะไปเหมาหมดว่า ทัวร์ทุกกรุ๊ป ที่เข้ามาไทย จะเป็น ทัวร์ศูนย์เหรียญนะครับ ทัวร์ดีๆ ทัวร์คุณภาพก็มีเยอะ เพียงแต่ทัวร์ศูนย์เหรียญมักจะเป็นข่าวเสียๆหายๆ จนถูกเรียกว่า ทัวร์ไม่มีคุณภาพ เพราะไปมาตัวเปล่า จนเป็นเหตุทำให้ผู้ที่ซื้อหัวนักท่องเที่ยวมานั้นสิ้นเนื้อประดาตัวไปมากหมายหลายคน แถมเรียก ไกด์ไทย ที่ทำงานคู่กับไกด์ผีไกด์เถื่อนต่างชาติ ว่า ซิตติ้งไกด์ คือไกด์ไทยที่นั่งเป็นไม้กันตำรวจท่องเที่ยวไม่ให้จับไกด์ผี หรือไกด์เถื่อนต่างชาตินั่นเอง

บางบริษัททัวร์ยอมจ้างซิตติ้งไกด์เป็นเงินเดือนๆละ 40,000 – 50,000 บาทเพื่อให้ทำงานคู่กับไกด์ผี และฮั้วกับ เจ้าหน้าที่บางมหาวิทยาลัยที่เปิดอบรมไกด์ เพื่อซื้อวุฒิบัตรอย่างเดียว ไม่ขออบรมิะไรทั้งสิ้น เพื่อนำวุฒิบัตรไปยื่นทำบัตรไกด์ เพื่อไปนั่งเป็นซิตติ้งไกด์อาชีพ —

ตอนนี้ ข่าวดี คือ การซื้อขายวุฒิบัตรกับเจ้าหน้าที่ในบางสถาบันที่เปิดอบรมไกด์คงทำไม่ได้แล้ว เพราะตั้งแต่ พ.ย.2562 เป็นต้นมา ==>> หลังจากที่ได้ผ่านอบรมไกด์ ได้วุฒิบัตรมาอย่างภาคภูมิใจ หรือ แอบซื้อวุฒิบัตรมา ก็ไม่มีการได้บัตรไกด์แบบอัตโนมัติเหมือนเมื่อก่อน เพราะทุกคนทุกอบรมแล้ว ได้วุฒิบัตรแล้ว ==>> ต้องไปสอบข้อสอบกลางที่จัดสอบโดยกรมการท่องเที่ยว 

ใครสอบผ่าน ก็จะได้บัตรไกด์ — ต้องกราบขอบคุณคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรมการท่องเที่ยวที่ได้ผ่านกฎหมายนี้ เพื่อสะกัดความชั่วร้ายขบวนการซื้อขายวุฒิบัตร ด้วยการส่งแค่ รายชื่อ พร้อมเอกสาร (ใบสมัคร บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษา-ถึงขั้นใช้ปลอมวุฒิก็มี-รูปถ่าย พร้อมรับรองเอกสารสำเนาถูกต้อง) แต่ไม่เคยไปนั่งอบรมแต่อย่างใด แถมบางคนก็อ่านไทยเขียนไทยไม่ได้ก็มี — คนในวงการก็รู้ว่า จะสั่งซื้อวุฒิบัตรกับใคร หรือจะส่งชื่อให้ใคร (มีแค่ไม่กี่คนที่รับทำ) เอกสารพร้อม เงินพร้อม วุฒิบัตรพร้อมเซ็นให้ แต่ต้องรอนัดรับวุฒิบัตรหลังปิดโครงการฯในแต่ละรุ่นๆ)

สรุป : ใครทำให้เกิดทัวร์ศูนย์เหรียญ = จัดไปก่อน แบบ-เบาะๆ โทษปรับ ไม่เกิน 500,000 ไปก่อน

หมายเหตุ : คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ไกด์เก่งๆหลายคน ก็ผ่านการเป็นซิตติ้งไกด์มาเช่นกัน แต่จะไม่ได้เป็นซิตติ้งไกด์ยึดเป็นอาชีพ แต่เพื่อไปฝึกเรียนรู้ 2-3 กรุ๊ปเท่านั้น และก็ผันตัวเองมาเป็นไกด์ตัวจริง

แต่ก็ต้องยอมรับว่า เป็นไกด์จริงแบบซื้อหัวนักท่องเที่ยวก็มี และที่เป็นไกด์จริงแบบไม่ซื้อหัวนักท่องเที่ยวก็มีเยอะ คือนำเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ที่มีการซื้อทัวร์เข้ามาเที่ยวไทยจริงๆ มาแบบมีต้นทุนจริงๆที่ไม่ใช่มาแบบศูนย์เหรียญ หรือทัวร์ต่ำกว่าทุน

(F.) ใคร ทำหน้าที่ เป็นไกด์-ในประเทศ โดยไม่ได้มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ = ไกด์เถื่อน = โทษคุก-ไม่เกิน 1 ปี และหรือ โทษ-ปรับ ไม่เกิน 100,000 บาท.

(G.) ใคร ทำหน้าที่ เป็นทัวร์ลีดเดอร์ หรือ เป็นหัวหน้าทัวร์ -พาคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ….โดยไม่ได้มีใบอนุญาตเป็นผู้นำเที่ยว บัตรทัวร์ลีดเดอร์ = หัวหน้าทัวร์เถื่อน = โทษคุก-ไม่เกิน 1 เดือน และหรือ โทษ-ปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท.

(H.) บริษัททัวร์ ที่จ้างไกด์-เถื่อน = เจอโทษปรับ ไม่เกิน 500,000 ถือว่าทำลายอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

( I. ) บริษัททัวร์ ที่จ้าง หัวหน้าทัวร์-เถื่อน/ ทัวร์ลีดเดอร์-เถื่อน ในการพาคณะนักท่องเที่ยวไทยไปเที่ยวที่ต่างประเทศ = เจอโทษปรับ ไม่เกิน 500,000 ถือว่าทำลายอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

สรุปว่า ผู้ใดทำให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว หรือ สถานที่แหล่งท่องเที่ยว หรือ เกิดกับนักท่องเที่ยว จะเจอโทษปรับ ไม่เกิน 500,000 ไปก่อน

การสมัครอบรมไกด์ – การสอบข้อสอบกลางโดยกรมการท่องเที่ยว

หลังอบรมไกด์ แล้ว ==>> ทุกคนจะยังไม่ได้บัตรไกด์แบบอัตโนมัติเหมือนเมื่อก่อนนะครับ ==>> เพราะ ตั้งแต่ ก.ย.2562 เป็นต้นไป ==>> ทุกคนที่อบรมไกด์แล้ว จะต้องรอสอบข้อสอบกลาง ที่จัดโดยกรมการท่องเที่ยว ==>> ใครสอบผ่านข้อสอบกลาง ก็จะได้บัตรไกด์  {โดยกรมการท่องเที่ยวได้เริ่มให้มีการอบรมไกด์ ด้วยการใช้หลักสูตรใหม่ ที่เรียกว่า หลักสูตรอบรมบัตรภูมิภาค โดยรุ่นแรกของประเทศไทย ได้อบรมเมื่อช่วงต้น พ.ย.2562}

{กรมฯได้มีการจัดสอบบัตรไกด์ สอบข้อสอบกลาง (บังเอิญ บัตรเงิน รุ่น 17 ลูกศิษย์ อ.แฮรี่ ได้เจอเป็นรุ่นแรกของประเทศไทย) สอบข้อสอบกลาง สอบบัตรไกด์ เมื่อ วันที่ 1 ก.ย. 2562} ผลที่ได้ ลูกศิษย์ อ.แฮรี่ สอบได้บัตรไกด์ 99% ได้เกือบยกรุ่น

สรุปว่า การสมัครอบรมไกด์ บัตรเงิน / บัตรภูมิภาค : ถ้าใครไม่ได้ภาษา และ ช่วงอบรม ไม่ตั้งใจฟัง ไม่อ่าน ไม่จด ไม่ท่อง ก็จะไม่มีความรู้ไปนั่งสอบข้อสอบกลางที่จัดโดยกรมการท่องเที่ยว ผลคือ จะสอบไม่ได้ อดได้บัตรไกด์ (แต่กรมฯให้สอบแก้ตัวได้เรื่อยๆภายใน 2 ปี หาก 2 แล้วยังสอบไม่ผ่าน ก็ถือว่า ต้องสมัครอบรมใหม่หมด) ===>>> เพราะฉะนั้น ถ้าใครไม่ได้คิดที่จะมุ่งมั่นเป็นไกด์ ก็ให้คิดดีๆ อบรมเล่นๆ จะเสียเวลาเปล่าๆ

ถ้าใครไม่ได้ภาษา อ่านภาษาไม่ได้ และพูดไม่ได้ = อ.แฮรี่ อยากบอกว่า อย่าคิดมาก = อย่าหลอกตัวเองดีกว่าครับ  ควรไปฟิตภาษามาก่อน {ข้อสอบกลางของกรมการท่องเที่ยว มีทั้งภาษาไทย 70 ข้อ ภาษาต่างประเทศ 30 ข้อ โดยสามารถเลือกว่า จะสอบโจทย์ภาษาอังกฤษ หรือ เลือกสอบโจทย์ภาษาจีน ==>> เพราะฉะนั้นใครอ่านภาษาไม่ได้  ก็จะไม่มีทางมั่วผ่าน 30 ข้อครับ}

♤ = https://www.CuHarry.com = ♤

คลิป และ ข่าวดัง ที่เกี่ยวข้อง กับการซื้อทัวร์ถู และนักท่องเที่ยวถูกเท ถูกลอยแพ :

คลิป (คลิกที่ข้อความ) :
1) สนามบินแทบแตก!! ลูกทัวร์โดนตุ๋น ทริปบินโอซาก้าญี่ปุ่น ถูกทิ้งลอยแพนับพันที่สุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 21.30 น.มีกลุ่มผู้โดยสารชาวไทยกว่า 1,000 คนรวมตัวกันที่บริเวณ 
2) ฝันสลายอดไปญี่ปุ่น! ทัวร์ขายโปรซื้อ 1 แถม 1 สุดท้าย59ชีวิตโดนทิ้งที่สุวรรณภูมิ(คลิป) 
3) รวบ 2 ผู้ต้องหา ตุ๋นลูกทัวร์ไปต่างแดนก่อนลอยแพ เสียหายนับล้าน 

5) ลูกทัวร์ไปจอร์เจียฝันค้างโดนปล่อยทิ้งคาเครื่องบิน 
6) สดจากสุวรรณภูมิ! ลูกทัวร์นับพันโดนลอยแพ หลังซื้อทัวร์ญี่ปุ่นราคาหมื่นต้น 
7) สุวรรณภูมิ” โกลาหล 2,000 ชีวิต-ถูกหลอกเที่ยวญี่ปุ่น | ข่าวช่อง 8 
8) 59 คนไทยฝันสลาย ถูกหลอกซื้อทัวร์ญี่ปุ่น มูลค่ารวมกว่า 1.7 ล้านบาท สุดท้ายถูกลอยแพกลางสนามบิน 

ข่าว  (คลิกที่ข้อความ) :
1) ทิ้งลูกทัวร์ 
2) ลูกทัวร์ถูกลอยแพโร่แจ้งตร.ล่าตัวบริษัทนำเที่ยวหอบเงินหนีเข้ากลีบเมฆ
3) 61 ลูกทัวร์ไทยไปฮอกไกโดถูกบริษัททัวร์ลอยแพกลางสุวรรณภูมิ 
4) ทัวร์กลุ่มปิด”ขาดสภาพคล่อง”-ลูกค้านับหมื่นระทึก 
5) ปิดเล่ห์ทัวร์ถูก (หลอก) ระวังเจอเท! ได้แค่ชะโงกทัวร์ให้เจ็บใจ 
6) เหยื่อทัวร์แหกตา ร้องกองปราบ ถูกทิ้งกลางสนามบิน 
7) บริษัทนำเที่ยวร้องถูกโกงทัวร์ต่างประเทศ เสียหาย 70 ล้านบาท
8) แฉทัวร์นรก ตั้งราคาแสนถูก แต่ค่าใช้จ่ายแสนแพง แถมขอรับบริจาคคนละ 10,000 

คลิก: การขอเงินหลักประกันคืนจากกรมการท่องเที่ยว / การยกเลิกการเดินทาง ได้เงินคืน และไม่ได้คืน / ระวังทัวร์เจอเท / ใครจะซื้อทัวร์ ให้ถามผู้ขายทัวร์ว่า : มีเลขที่ใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว?

หากข่าวนี้น่าสนใจ แชร์เลย